กว่าครึ่งหนึ่งของชีวิตเมื่อเราเติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ เราใช้เวลาไปกับการทำงาน ไม่ว่างานนั้นจะเป็นงานอะไร งานสร้างสรรค์ งานบริหาร หรืองานทั่วไป เราส่วนใหญ่ต่างต้องทำบางสิ่งบางอย่างที่เรียกว่างาน
บางคนเลือกได้ว่าอยากทำงานอะไร แต่หลายคนเลือกไม่ได้ แล้วเราจะสามารถทำให้งานที่เราเลือกไม่ได้นั้น กลายเป็นงานที่ดี งานที่เรามีความสุขและยินดีที่จะทำได้อย่างไร
เรามีความฝันเกี่ยวกับงานที่เราอยากทำ บางทีงานที่เราทำอยู่อาจห่างไกลจากความฝันที่เรามี
ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เราทุกคนต่างก็เลือกว่างานของเรามีความหมายต่อเราอย่างไร ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม ความหมายที่เราให้งานของเรากำหนดทัศนคติที่เรามีเกี่ยวกับงานนั้น
ซึ่งส่งผลต่อคุณภาพและความเป็นเลิศในงานของเรา และส่งผลต่อวิธีที่เราทำงานนั้นด้วย
สิ่งที่เรารู้แต่เราไม่เคยตระหนัก คือ เรามีอิสระในการเลือกความหมายเชิงบวกหรือลบให้กับงานของเรา 100%
เมื่อเราทำเช่นนั้น เราก็จะทำงานนั้นได้ดียอดเยี่ยม และเราก็จะพบความสุขในการทำงานในที่สุด แท้จริงแล้วตัวตนของเราไม่ได้อยู่ในงานที่เราทำ แต่อยู่ในการเลือกหรือการกำหนด "ความหมาย" ให้กับงานของเราต่างหาก
ค่าของคนจึง "ไม่ได้" อยู่ที่ผลของงาน อย่างที่เราเคยได้ยินมา
งานเก็บขยะ งานกวาดถนน งานเสิร์ฟอาหาร เช็ดโต๊ะ งานล้างจาน แม่บ้าน เลี้ยงลูก งานรักษาความปลอดภัย งานโบกรถ พับถุงกระดาษ สถาปนิก ศิลปิน ข้าราชการ หรืแม้กระทั่งงานบริหารในบริษัทชั้นนำของโลก ล้วนเป็นงานที่มีความหมายขึ้นมาได้ทั้งนั้น ถ้าเราเข้าใจและเลือกความหมายเชิงบวก งานนั้นก็จะเป็นงานที่มี "คุณค่า" ทั้งต่อเราเองและคนอื่นๆ เริ่มจากคนใกล้ตัว
ความหมายของงาน คือทางเลือกของเรา
ใครอยากทำงานอย่างมีความหมาย มีความสุข ทำได้ดีและผลออกมาดี ให้เลือกความหมายเชิงบวก ใครอยากทรมานกับการทำงาน เป็นทุกข์กับงานที่ทำและงานที่กำลังจะเปลี่ยนไปทำตลอดชีวิต ให้เลือกสิ่งตรงกันข้าม
จุดเริ่มต้นของการมี "ทัศนคติที่ดียอดเยี่ยม" ในการทำงาน คือ จงเลือกความหมายของงานที่มี.